เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคดีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับสังคมไทยอย่างมากเลยทีเดียว (แม้ว่าจะไม่มีใครอยากเจอกับตัวเองก็ตาม) ซึ่งนั่นก็คือคดีการฟ้องหย่า หรือที่ชาวบ้านทั่วๆไปมักเรียกกันว่า “เรื่องของผัวๆเมียๆ” นั่นเอง ซึ่งสำหรับใครที่กำลังประสบพบเจอปัญหาชีวิตคู่ระหองระแหงและต้องหวาดระแวงกันอยู่ตลอดเวลานั้น การ ปรึกษาทนายความ เพื่อให้สามารถขจัดปัญหาความทุกข์ยากจากการใช้ชีวิตคู่ก็ถือว่าเป็นอีกทางออกหนึ่งที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
การฟ้องหย่ามีเหตุแห่งการฟ้องหย่าดังนี้
- ยกย่องหญิงอื่นหรือชายอื่น เป็นชู้หรือมีชู้
- ประพฤติชั่ว ไม่ว่าจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่
- ได้รับความอับอายจากคู่สามีหรือภรรยาของตน
- ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง
- ได้รับความเสียหายเกินควร
- ถูกทำร้ายร่างกาย หรือทรมานจิตใจ หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามบุพการี
- มีการทิ้งล้างอีกฝ่ายเกินหนึ่งปี
- สามีหรือภรรยาถูกจำคุกเกินหนึ่งปี
- มีความสมัครใจแยกกันอยู่เกิน3ปี
- ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลหายสาบสูญ
- ไม่ให้ความช่วยเหลือหรืออุปการะเลี้ยงดู หรือทำตนเป็นปฏิปักษ์
- วิกลจริตมาเกิน 3 ปี
- ผิดฑัณฑ์บนที่เคยตกลงกันไว้เป็นหนังสือตามกฏหมาย
- สามีหรือภรรยาเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
- สามีหรือภรรยาไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล
การร้องเรียกค่าเสียหายหลังจากฟ้องหย่า
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการฟ้องหย่า ซึ่งสามีหรือภรรยามีสิทธิในการเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสของตนเองได้ดังนี้
- หากสามีหรือภรรยาประพฤตินอกใจคู่สมรสโดยการเป็นชู้ หรือมีชู้หรือมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับชายอื่นหรือหญิงอื่น ภรรยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากคู่สมรสของตนเองหรือชู้ผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้นได้
- หากสามีหรือภรรยาจงใจก่อให้เกิดเหตุหย่าเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่อาจทนได้จึงต้องฟ้องหย่า สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้
- หากสามีหรือภรรยาไม่ประสงค์หย่าจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากภรรยาหรือสามีหรือผู้เป็นชู้ไม่ได้
- หากมีการรู้เห็นเป็นใจให้กระทำการมีชู้จากทั้งสองฝ่ายโดยยินยอม จะเรียกค่าเสียหายมิได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะเห็นได้ว่าสำหรับคดีการฟ้องหย่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวโดยเฉพาะอย่ายิ่งสำหรับชีวิตคู่ของผู้คนในสังคมไทยเป็นอย่างมาก หากท่านกำลังประสบปัญหากับคดีดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อ ปรึกษาทนายความเพื่อได้รับแนวทางในการทำเรื่องฟ้องหย่าหรือร้องเรียกค่าเสียหายอย่างเป็นธรรมสำหรับชีวิตคู่ของท่านได้อย่างถูกต้องเหมาะสม